ความร่วมมือเพื่อชุมชนคลองเตย
ยูนิเซฟร่วมกับศิลปินดาราและอาสาสมัคร ร่วมบรรจุถุงสำรองฉุกเฉินเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
- พร้อมใช้งานใน:
- English
- ไทย
เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในระหว่างช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่ยูนิเซฟได้ปรับเปลี่ยนห้องสำนักงานเป็นสถานที่สำหรับบรรจุถุงสำรองฉุกเฉิน ซึ่งในแต่ละวันจะมีอาสาสมัคร 15 คนจากโครงการ I Am UNICEF มารวมตัวกันเพื่อบรรจุถุงสุขอนามัยและถุงส่งเสริมการเรียนรู้จำนวน 22,000 ชุด ประกอบไปด้วยสบู่ เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัย ตลอดจนหนังสือ ของเล่น และอุปกรณ์สื่อการเรียนรู้ โดยที่สิ่งของเหล่านี้จะถูกกนำไปแจกจ่ายอย่างรวดเร็ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กเล็กในชุมชนคลองเตยซึ่งมาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย ให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถเรียนหนังสือได้ในช่วงการระบาดของ COVID-19
“การระบาดของ COVID-19 จะต้องไม่มีผลกระทบกับการเรียนรู้แล้วพัฒนาการของเด็กเล็ก” คุณคิม คยองซัน ผู้อำนวยการยูนิเซฟประจำประเทศไทยกล่าว “เรารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งกับความเสียสละของอาสาสมัครทั้ง 38 คนจาก I Am UNICEF นักศึกษา 8 คนจาก UNICEF Club เจ้าหน้าที่ระดมทุน 5 คนจากยูนิเซฟ และศิลปินดาราทั้ง 2 ท่าน นอกเหนือจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟและลูก ๆ ของพวกเขาที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งถุงสำรองฉุกเฉินให้กับเด็กเล็กในชุมชนคลองเตยที่ต้องการความช่วยเหลือ
อาสาสมัครจะแบ่งช่วงเวลาการทำงานเป็นกะ แต่ขณะเดียวกันก็มีอาสาสมัครหลายคนที่สละเวลามาช่วยทุกวันอย่างเช่น เพนนี ซึ่งพึ่งเคยทำงานอาสาเป็นครั้งแรก หรือคุณสุนีย์และ เบลล์ ที่เคยร่วมงานอาสาสมัครมาแล้วหลายโครงการ
“เป็นการทำงานอาสาสมัครครั้งแรกค่ะ” เพนนีกล่าว “เวลาที่เหนื่อย ก็จะบอกกับตัวเองว่ายังมีคนที่ต้องการอุปกรณ์สุขอนามัยเหล่านี้ ตัวเองรู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมช่วยเหลือผู้อื่น อยากจะฝากเชิญชวนทุกคนให้ลองมาทำกิจกรรมอาสาสมัครกับเราค่ะ”
“เบลล์ก็เพิ่งมีโอกาสได้ทำงานอาสาสมัครกับ UNICEF ครั้งแรก” เบลล์กล่าวเสริม “รู้สึกสนุกมาก แล้วก็ยังได้รู้จักกับเพื่อนดี ๆ อีกหลายคน ถ้าใครอยากได้เพื่อนใหม่ เบลล์ก็อยากจะแนะนำให้ลองมาทำงานเป็นอาสาสมัครดูนะคะ”
อาสาสมัครได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจาก คุณอาตุ่ย พุทธชาติ พงศ์สุชาติ และ คุณต๊อด ปนพงศ์ ไขแสง
“อามาเป็นอาสาสมัครให้กับทางโครงการ I Am UNICEF ก็เพราะว่ารู้สึกมีความสุขที่เราจะได้ใช้แรงกายแรงใจที่มีมาช่วยเหลือคนอื่น ที่สำคัญคือไม่ว่าใครก็สามารถมีส่วนร่วมกับ I Am UNICEF ได้เช่นกันนะคะ” คุณอาตุ่ยกล่าว
“อาอยากจะบอกให้ทุกคนดูแลสุขภาพใจของตัวเองให้ดี อาคิดว่าความมีน้ำใจต่อกันจะช่วยนำสิ่งดี ๆ กลับเข้ามาสู่ชีวิตของเรานะคะ”
“รู้สึกดีใจมากเลยครับที่ได้มาเป็นอาสาสมัคร ร่วมบรรจุของส่งไปให้น้อง ๆ ที่ประสบกับโควิดอยู่ตอนนี้ รู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูกที่เราสามารถทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ มาช่วยเขา ส่งกำลังใจไปให้เขา ส่งของไปให้เขา รู้สึกภูมิใจแล้วก็ดีใจมาก ๆ ครับ” คุณต๊อดกล่าว
“อยากให้ตระหนักเรื่องการป้องกันตนเองให้มากขึ้นครับ ใส่แมสก์ ล้างมือบ่อย ๆ รักษาระยะห่างกันก่อนช่วงนี้ ถ้าผ่านพ้นช่วงนี้เมื่อไหร่ เราค่อยกลับมาใกล้ชิดกันเหมือนเดิมนะครับ”
ชุมชนคลองเตยมีผู้อาศัยอยู่ราว 100,000 คน โดยส่วนใหญ่อยู่กันในสภาพที่ค่อนข้างแออัด จึงทำให้การเข้าถึงสุขอนามัยและอุปกรณ์จำเป็นอื่น ๆ เป็นไปได้อย่างจำกัด ยูนิเซฟร่วมกับพันธมิตรและอาสาสมัครจึงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือจากผลกระทบจาก COVID-19