อ่านสัปดาห์ละเล่ม ออนไลน์ก็อ่านได้

ใกล้เวลาบ่ายสองโมงของวันศุกร์เด็ก ๆ ชั้นมัธยมทยอยเข้าร่วมกิจกรรมอ่านสัปดาห์ละเล่ม ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แต่ในปีนี้แตกต่างจากที่เคย เพราะสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คุณครูและเด็ก ๆ ต้องเจอกับความท้าทายในการทำกิจกรรมร่วมกัน หลายโรงเรียนยังไม่สามารถเปิดให้เข้าเรียนที่โรงเรียนได้ แต่ถึงอย่างนั้นการอ่านและการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ต้องไม่สะดุด เด็ก ๆ ต้องเรียนรู้ได้อย่างปลอดภัยแม้อยู่ที่บ้าน ทุกคนจึงได้มาเจอกัน ทำกิจกรรมร่วมกันทางออนไลน์ ผ่านโปรแกรมซูม

กิจกรรม “อ่านสัปดาห์ละเล่ม หรือ” “A Book A Week” เป็นความร่วมมือระหว่างองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) และศึกษาธิการภาค 7 เพราะการอ่านคือพื้นฐานการเรียนรู้ตลอดชีวิต เราจึงต้องการจุดประกายให้กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านเกิดขึ้นในโรงเรียน อีกทั้งช่วยแนะนำการใช้ห้องสมุดให้กับนักเรียนทุกคน โดยในปี 2562 ซึ่งเป็นปีแรกของโครงการมีโรงเรียนนำร่องเข้าร่วม 14 โรงเรียน และเพิ่มมากขึ้นในปีที่สองเป็นจำนวน 61 โรงเรียน และในปี 2564 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโครงการมีถึง 93 โรงเรียนเข้าร่วมกับเรา ซึ่งมีทั้งโรงเรียนรัฐบาล เอกชน และนักเรียนนอกระบบโรงเรียน เข้าร่วมด้วย 

แม้จะยังไปเรียนที่โรงเรียนไม่ได้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด แต่หนังสือและโลกออนไลน์พาให้ทุกคนได้มาเจอกัน ทั้งอาจารย์จาก สพฐ. พี่ ๆ เจ้าหน้าที่จากยูนิเซฟ และน้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาจาก 30 โรงเรียน เข้าร่วมรวม 118 คน นับเป็นการจัดกิจกรรมการอ่านบนโลกออนไลน์ 100% ครั้งแรกที่มีโรงเรียนเข้าร่วมมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มโครงการมา กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากน้อง ๆ นักอ่านจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งจากกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ ได้แก่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี เชียงใหม่ อุดรธานี สตูล สงขลา ปัตตานี และ นราธิวาส เพื่อให้ทุกคนที่เข้าร่วมได้ร่วมกิจกรรมอย่างเต็มที่และทั่วถึงจึงมีการแบ่งน้อง ๆ และ พี่ ๆ เป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละไม่เกิน 10 คน ทั้งหมด 13 กลุ่ม เพื่อทำกิจกรรมสุดสร้างสรรค์
 

กิจกรรมหนังสือเล่มโปรด Book Club Exchange

เริ่มด้วยการให้เวลาน้อง ๆ คนละหนึ่งนาที รีวิวหนังสือที่ตนเองชอบ ชอบเพราะอะไร ได้ข้อคิดอะไรจากหนังสือเล่มนี้บ้าง ทำไมถึงอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ อ่าน ในตอนแรกทุกคนต่างก็ยังเกร็งและเขินอยู่ แต่หนังสือค่อย ๆ เชื่อมทุกคนเข้าหากัน น้อง ๆ ผลัดกันฟังเรื่องราวที่แต่ละคนชอบไปจนครบ ซึ่งน้อง ๆ สนุกสนานกับการได้แบ่งปันหนังสือที่ตนเองชอบมาก นี่คือความรู้สึกของน้อง ๆ ที่ได้ร่วมกิจกรรม

“ช่วงนี้โรงเรียนหยุด ตอนนี้หนูอยู่ ม.6 แล้ว หนังสือที่หนูอ่านคือพวกหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัย แต่วันนี้ที่ยกมาคือหนังสือที่มีข้อคิดในการใช้ชีวิต อย่างเช่น ให้เรารักครอบครัว เอาใจใส่กัน อย่าหลงเชื่อสิ่งที่เป็นวัตถุนิยมมาก” น้องอาย จากโรงเรียนบ้านหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี

“ขอบคุณโรงเรียนและครูประจำชั้นที่ให้มาร่วมโครงการนี้ ขอบคุณพี่ ๆ พี่ ๆ เฟรนด์ลี่มาก มีการแนะนำทั้งแนวทางชีวิตและหนังสือ ขอบคุณ โครงการดี ๆ จากยูนิเซฟด้วยครับ” น้องเป๊ก จากโรงเรียน ราชวินิตนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

กิจกรรมแต่งอภิมหากาพย์วรรณกรรมร่วมกัน Thai Literature Avenger

ให้น้อง ๆ นึกถึงตัวละครที่ตัวเองชอบคนละ 1 ตัว และเขียนเรื่อง 1 ประโยคเกี่ยวกับตัวละครของตัวเองลงไปในเว็บ miro.com (กระดานออนไลน์) ให้เวลากลุ่มละ 20 นาที โดยไม่ต้องกังวลว่าจะผิดหรือถูก จะเขียนอย่างไรก็ได้หมด แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน เมื่อหมดเวลาพี่ ๆ จะช่วยรวบรวมความคิดของน้อง ๆ มาร้อยเรียงกัน จากนั้นจะนำไปพัฒนาต่อให้กลายเป็นนิทานสั้นในรูปแบบ E-book ที่น้อง ๆ ทุกคนไม่ว่าอยู่ในจังหวัดใดก็สามารถเข้าไปอ่านเรื่องราวในแบบฉบับตัวเองและเพื่อน ๆ ได้ 

กิจกรรมนี้ทำให้เห็นว่าจินตนาการของเด็กทุกคนไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแท้จริง ถึงแม้การใช้เทคโนโลยีจะติดขัดบ้างแต่ทุกคนก็ช่วยเหลือกัน จนทั้ง 13 กลุ่มได้เรื่องราวที่สมบูรณ์ในแบบของตัวเองและไม่เหมือนใคร นอกจากได้แต่งนิทานร่วมกันแล้วยังมีกลุ่มที่ใช้เวลาระหว่างรอเพื่อน ๆ แต่งเรื่อง พูดคุยกันไปเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องสารทุกข์สุกดิบ การเรียน ความฝัน อนาคต เหมือนได้เจอหน้าพูดคุยกันที่โรงเรียนจริง ๆ ช่วยคลายความรู้สึกเหงาและคลายเครียดได้อีกด้วย

“ประทับใจพี่ ๆ เป็นกันเอง น่ารักทุกคน ทำให้ทุกคนกล้าแสดงออก การแต่งนิทานคนละอย่างมารวมกันเป็นเรื่องหนึ่งได้ ไม่น่าเชื่อเลย” น้องมายมิ้น จากโรงเรียนนาไหมพิทยาคม รัชมังคลาภิเษก จังหวัดอุดรธานี

“เวลาพี่ ๆ ถาม รู้สึกได้แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับหนังสือ การแต่งนิทานรู้สึกไม่มีผิดถูก ตามจิตนาการของเรา ทำให้เราสามารถกล้าแสดงออกได้ ขอบคุณที่จัดโครงการดี ๆ แบบนี้ครับ” น้องเขมทัศ โรงเรียนวังน้อย พนมยงค์วิทยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

อ่านความรู้สึกของน้อง ๆ ไปแล้วลองมาฟังข้อคิดจาก อาจารย์เสาวภา ศักดา หรือ อาจารย์หน่อย ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาวิทยบริการ จาก สพฐ. กันบ้าง

“รู้สึกดีใจที่มาเจอน้อง ๆ หลายคนที่รักการอ่านเหมือนกัน ไม่ว่าจะสื่อกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ล้วนทำให้เกิดความรู้ได้ทั้งสิ้นฝากถึงน้อง ๆ ทุกคน ทันทีที่จบการอ่านแล้วไม่อยากให้หยุดแล้วทิ้งไป อยากให้อ่านมุมมอง อ่านความรู้ อ่านประสบการณ์สิ่งที่ผู้เขียนต้องการสะท้อนออกมา ลองใช้เวลาสักนิดหนึ่งในการไตร่ตรองว่า สิ่งที่ผู้เขียนเขียน มีข้อดีข้อเสียอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง หรือการกระทำทั้งที่ดีและไม่ดี เมื่อทำแล้วแล้วจะเกิดผลอะไรที่ตามมาได้บ้าง สิ่งเหล่านี้ช่วยเปิดมุมมองของตัวเราเองให้เกิดวิธีการคิด และเมื่ออนาคตที่เราต้องเผชิญกับเรื่องใด สิ่งเหล่านี้มันจะเป็นประสบการณ์ที่ช่วยเราในการคิดแก้ปัญหา“ 

แม้โครงการอ่านสัปดาห์ละเล่มจะจบลงในปีนี้ แต่วัฒนธรรมรักการอ่านควรจะคงอยู่ในโรงเรียน ในบ้าน และในตัวของเด็ก ๆ ตลอดไป เพราะการอ่านคือพื้นฐานของการเรียนรู้ตลอดชีวิต ฉะนั้นว่างเมื่อไหร่ อย่าลืมหยิบหนังสือมาอ่านสักสัปดาห์ละเล่มกันนะ

ติดตามข่าวสารจากองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย

ไม่พลาดทุกการอัปเดต สมัครรับข่าวสารทางอีเมลกับเรา