ส่งเสริมทักษะเด็ก ๆ สู่อนาคต
บทเรียนล้ำค่ากับกิจกรรมพลังบวกของเหล่าอาสาฯ นักสันทนาการ

- พร้อมใช้งานใน:
- English
- ไทย
“ตึ่ง! ตึ่งตึ่ง โป๊ะโป๊ะ ตึ่ง / ตึ่งตึ่งตึ่ง โป๊ะโป๊ะ ตึ่ง / ตึ่งตึ่งตึ่ง โป๊ะโป๊ะ ตึ่ง!
เอ้า! ฮิป! ฮิป! ฮิปฮิป โป โอ้โหตัวมันใหญ่!”
เสียงกลองสันทนาการที่ดังก้อง ประสานอย่างลงตัวไปกับเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือของเด็ก ๆ ในโรงเรียนจากจังหวัดมุกดาหาร เด็กทุกคนต่างตั้งใจร้องเพลงให้เสียงดังอย่างเต็มที่ ส่ายเอวอย่างสุดแรง และแข่งกันยกมือให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ เกิดขึ้นผ่านกิจกรรมที่แพมและปังปอนด์ อาสาสมัครในโครงการผู้นำอาสาของยูนิเซฟ รุ่นที่ 1 ได้คัดสรรและซักซ้อมมาอย่างดี จนสามารถสร้างความสุข รวมถึงพัฒนาทักษะสังคม ไหวพริบ การสร้างสรรค์ไอเดีย ความกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นให้กับเด็ก ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง โดยกิจกรรมที่ทำให้เด็ก ๆ ได้รับความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กับความรู้เช่นนี้เป็น ความมหัศจรรย์ของกิจกรรมสันทนาการ
แพม (พิมพ์ชนก อุ่นชัย) และปังปอนด์ (วุธิกร ตุ้มอ่อน) เป็นผู้นำ ผู้คิดค้น และผู้วางแผนกิจกรรมสันทนาการที่มีประสบการณ์มามากกว่า 5 ปี ทั้งสองคนได้เข้าร่วมเป็นทีมงานอาสาสมัครในโครงการผู้นำอาสารุ่นที่ 1 โดยโครงการผู้นำอาสา (Volunteer Leader Programme) ของยูนิเซฟนี้สนับสนุนให้แกนนำอาสาสมัครทั่วประเทศไทยได้คิดริเริ่มและลงมือปฏิบัติ เพื่อแสดงพลังขับเคลื่อนสร้างความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ชุมชนของตัวเอง แพมและปังปอนด์จึงกระตือรือร้นและตั้งใจเป็นอย่างมากในการสร้างกิจกรรมสันทนาการที่สร้างเสริมทักษะผ่านความสนุกสนานให้แก่เด็ก ๆ ใน 4 โรงเรียนที่จังหวัดมุกดาหาร นอกจากกิจกรรมสันทนาการแล้ว ทีมงานอาสาคนเก่งทั้งสองยังบูรณาการนำกีฬาอย่างเช่น บาสเก็ตบอลและฟุตบอล มาใช้ในการทำกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะในการทำงานเป็นทีมและการอยู่ร่วมกัน สอนให้เด็ก ๆ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น
แพมและปังปอนด์เล่าว่า แม้ว่าระหว่างทางในการทำงานอาสาจะมีบางครั้งที่ต้องพบกับอุปสรรคหรือความยากลำบากในการทำงาน แต่ทุกครั้งที่รู้สึกท้อหรือเหนื่อย ทั้งสองคนก็จะมองไปที่เด็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้า และพลังจะก็กลับมา “เหมือนมีพลังส่งมาจากข้างใน จนกลายเป็นความตั้งใจที่จะทำทุกกิจกรรมให้ออกมาดีที่สุด” ทั้งสองกล่าว เพราะเชื่อว่าหากกิจกรรมจบลงขณะที่ยังมีพลังเหลืออยู่เพราะไม่ได้แสดงออกมาอย่างเต็มที่ เมื่อเวลาผ่านไปก็จะต้องเสียใจเนื่องจากกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้น สำหรับพวกเข้าแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นอาสาสมัคร คือ ใจ และหลักในการทำงานที่ว่า “ใจต้องพร้อม วางแผนให้ดี ลงมือทำอย่างเต็มที่ และเดินไปให้สุดทาง”

อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานอาสาครั้งนี้ของแพมและปังปอนด์แตกต่างไปจากที่เคย เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่จัดกิจกรรมสันทนาการในสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องระมัดระวังในการรักษาระยะห่างของเด็ก ๆ และกับทีมงานอาสาด้วยกันเอง แต่แพมและปังปอนด์ก็จัดการกับทุกกิจกรรมได้อย่างดี ด้วยการสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโครงการผู้นำอาสาจากยูนิเซฟ ที่นอกจากช่วยแนะนำเรื่องมาตรการต่าง ๆ เช่น การใส่หน้ากากที่ถูกต้อง การวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนทำกิจกรรม การรักษาระยะห่าง และการใช้เจลแอลกอฮอล์ ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโครงการยังช่วยเป็นแรงบันดาลใจในวันที่ทั้งสองหมดแรง ทำให้เชื่อว่า “พลังบวกสามารถส่งต่อกันได้จริงๆ”
พี่เจ้าหน้าที่ยูนิเซฟยังได้ให้คำแนะนำเรื่องสิทธิเด็กในการปฏิบัติงานในฐานะอาสาสมัคร โดยให้คำนึงถึงการปฏิบัติต่อเด็ก ๆ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน จนทำให้ทั้งแพมและปังปอนด์รู้สึกว่าการได้ปฏิบัติงานในโครงการผู้นำอาสากับยูนิเซฟเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเอง และทำให้เธอและเขาเติบโตไปอีกขั้นของการเป็นผู้นำที่ดีในชุมชนอย่างแท้จริง
การเป็นอาสาสมัครนั้น ทั้งสองคนไม่ได้คาดหวังสิ่งใดตอบแทน มีเพียงความตั้งใจที่ต้องการมอบความสุข ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อชุมชน และคิดเสนอว่าเมื่อใดก็ตามที่ได้เป็นผู้ให้ สิ่งที่ได้รับกลับมามักจะยิ่งใหญ่อย่างประเมินค่าไม่ได้เสมอ ทั้งสองได้กล่าวทิ้งท้ายถึงไว้ว่า ”พวกเรามีความสุขมากที่ได้เห็นเด็กทุกคนมีความสุขจากความตั้งใจจริงของเรา”