ส่งมอบหนังสือเด็ก อุปกรณ์การเรียนรู้แบบดิจิทัล และข้อมูลเรื่องวัคซีนแก่ชุมชนพื้นที่ห่างไกล

คณะทำงานยูนิเซฟลงพื้นที่ชุมชนข้ามชาติในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

มิเรียม ไรอัน
เด็กชายและแม่ในชุมชนเจดีย์โคะ
UNICEF Thailand
29 กรกฎาคม 2022

คณะทำงานยูนิเซฟซึ่งนำโดย คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ลงพื้นที่ชุมชนข้ามชาติในพื้นที่ห่างไกลในอำเภอแม่สอด ทางภาคเหนือของประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคม  เพื่อรับทราบถึงผลการปฏิบัติงานของยูนิเซฟที่ให้การสนับสนุนด้านความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก คณะทำงานยังได้พบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพันธมิตรของยูนิเซฟ เช่น หน่วยงานด้านการศึกษาท้องถิ่นและองค์กรพัฒนาเอกชนที่ปฏิบัติหน้าที่ในชุมชนชายขอบ

คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ลงพื้นที่ชุมชนข้ามชาติในพื้นที่ห่างไกลในอำเภอแม่สอด
UNICEF Thailand
คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ลงพื้นที่ชุมชนข้ามชาติในพื้นที่ห่างไกลในอำเภอแม่สอด

ในช่วงค่ำของวันแรก คณะทำงานยูนิเซฟเดินทางไปยังชุมชนเจดีย์โคะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่าแรงงานข้ามชาติและครอบครัวรวมตัวกันหลังจากเสร็จงาน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมที่หน่วยวิจัยมาลาเรียโซโกล (Shoklo Malaria Research Unit) จัดขึ้น กิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากยูนิเซฟ

ชุมชนผู้อพยพในพื้นที่ห่างไกลได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 อย่างหนัก การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการตระหนักรู้ในรูปแบบนี้เปิดโอกาสให้สามารถเผยแพร่ข้อมูลด้านสุขอนามัย วิธีป้องกัน และแก้ไขความเข้าใจผิดและความกลัวในการรับวัคซีนโควิด-19

คณะทำงานยูนิเซฟลงพื้นที่ชุมชนข้ามชาติในพื้นที่ห่างไกลในอำเภอแม่สอด
UNICEF Thailand
คณะทำงานยูนิเซฟลงพื้นที่ชุมชนข้ามชาติในพื้นที่ห่างไกลในอำเภอแม่สอด

เด็กจากครอบครัวแรงงานข้ามชาติรวมตัวกันที่ด้านหนึ่งของสนามเพื่อเรียนรู้วิธีป้องกันตนเองจากเชื้อโควิด-19 ด้วยการล้างมือเป็นประจำและรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล ระหว่างนั้นเด็ก ๆ ยังเพลิดเพลินกับการรับประทานขนมและทำกิจกรรมระบายสีกับเพื่อน ๆ

“ดิฉันมีความยินดีที่ได้เห็นความช่วยเหลือที่องค์การยูนิเซฟส่งมอบให้กับชุมชนต่าง ๆ ด้วยตัวเอง” คิมกล่าวต่อ “งานในระดับนโยบายของเราจะไม่มีความหมายใด ๆ  เลยหากไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อชีวิตของเด็ก ๆ ได้”

ขณะที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมวัยผู้ใหญ่รวมตัวกันรับฟังข้อมูลด้านสุขภาพและประโยชน์ของการเข้ารับวัคซีนอยู่นั้น ก็มีการจัดกิจกรรมเต้นรำแทรกเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าร่วมฟัง

เด็ก ๆ เข้าร่วมกิจกรรมที่จัดโดยหน่วยวิจัยมาลาเรียโซโกลจัดขึ้น สนับสนุนโดยยูนิเซฟ
UNICEF Thailand
เด็ก ๆ เข้าร่วมกิจกรรมที่จัดโดยหน่วยวิจัยมาลาเรียโซโกลจัดขึ้น สนับสนุนโดยยูนิเซฟ

“การจัดหาข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญให้กับชุมชนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้พวกเขาเข้าใจการดูแลตนเองและคนที่รักในวิกฤติครั้งนี้ และช่วยให้พวกเขามีสุขภาพแข็งแรง” บุลากร ทิน้อย ผู้ช่วยฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ จากหน่วยวิจัยมาลาเรียโซโกล ให้ความเห็นในช่วงท้ายของกิจกรรม

วันต่อมา คณะทำงานยูนิเซฟเดินทางไปเยี่ยมห้องสมุดเคลื่อนที่ที่บ้านวังผา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 รับผิดชอบดูแลนักเรียนประมาณ 52,000 คน ซึ่งหนึ่งในสามเป็นเด็กจากครอบครัวแรงงานข้ามชาติ นอกจากนั้น ยังมีศูนย์การเรียนรู้เด็กข้ามชาติ อีก 66 แห่ง ที่รับผิดชอบดูแลเด็กอีกเกือบ 9,000 คน เพื่อสนับสนุนระบบการศึกษาของภาครัฐ

คณะทำงานยูนิเซฟเดินทางไปยังบ้านวังผา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก
UNICEF Thailand
คณะทำงานยูนิเซฟเดินทางไปยังบ้านวังผา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก

กลุ่มเป้าหมายของโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ คือโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลและชุมชนชาติพันธุ์ โดยได้มีการนำหนังสือ อุปกรณ์สารสนเทศ เช่น แล็ปท็อป แท็บเล็ต โพรเจกเตอร์ และอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มาให้นักเรียนที่ยังคงประสบปัญหาด้านการเขียนอ่านขั้นพื้นฐานและการเรียนรู้แบบดิจิทัล

ภายในห้องสมุดเคลื่อนที่ของยูนิเซฟ
UNICEF Thailand
ภายในห้องสมุดเคลื่อนที่ของยูนิเซฟ

โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ขององค์การยูนิเซฟเริ่มขึ้นเมื่อปี  2559 โดยได้รับการสนับสนุนจากท็อปส์ จนถึงปัจจุบันได้ช่วยเหลือเด็กนักเรียนด้อยโอกาสในแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ เลย และ ยะลา ไปแล้วมากกว่า 10,000 คน

“การศึกษาเป็นพื้นฐานและส่วนสำคัญของต้นทุนชีวิตมนุษย์” คิม กล่าวกับ นายปิลัทธ์ อุดมวงษ์ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของโครงการต่าง ๆ ที่ศูนย์ประสานงานการจัดการศึกษาเด็กต่างด้าว ทำงานร่วมกับศูนย์การเรียนรู้เด็กข้ามชาติว่า “เด็กทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงการศึกษาและควรได้รับเครื่องมือเพื่อสนับสนุนอนาคตของพวกเขา”

ตัวแทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 และ คยองซอน คิม
UNICEF Thailand
ตัวแทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 และ คยองซอน คิม

บริเวณสนามของโรงเรียน เด็กหญิงธวัลรัตน์ พิมลศรทอง อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อธิบายว่าห้องสมุดเคลื่อนที่เปิดโอกาสให้เธอเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่มีในโรงเรียนได้อย่างไร “หนูรักการอ่าน โดยเฉพาะหนังสือการ์ตูนค่ะ” “ห้องสมุดเคลื่อนที่มีหนังสือให้เลือกมากมายและหลากหลายกว่าที่มีในห้องสมุดของโรงเรียนหนูค่ะ”

สุนาลิน อินปุ๊ด เพื่อนร่วมชั้นของเด็กหญิงตะวันรัตน์ กล่าวเสริม “หนูตื่นเต้นและดีใจมากค่ะที่เห็นห้องสมุดเคลื่อนที่ครั้งแรก หนูชอบอ่านหนังสือประเภทวรรณคดีไทยและนำไปเล่าต่อในหนังสือทำมือที่พวกเราทำกันขึ้นมาเองในโรงเรียนค่ะ หนูชอบการใช้แท็บเล็ตในการค้นหาข้อมูลมาก หนูยังได้ใช้แท็บเล็ตเล่นเกมส์แข่งกับเพื่อน ๆ และใช้วาดรูปและระบายสีด้วยค่ะ”

สุนาลิน อินปุ๊ด
UNICEF Thailand
สุนาลิน อินปุ๊ด

วันที่สองได้ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงสุดท้าย คณะทำงานยูนิเซฟเดินทางไป บ้านซอระแตะ อำเภอพบพระ ซึ่งมูลนิธิเสริมปัญญาได้จัดฉายภาพยนตร์เคลื่อนที่เกี่ยวกับเรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่องค์การยูนิเซฟสนับสนุน เพื่อให้แรงงานข้ามชาติและครอบครัวได้รับชม ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา กิจกรรมทางการศึกษาผ่านรูปแบบความบันเทิงนี้ได้จัดขึ้นทั้งหมด 24 ครั้ง และมีผู้ชมทั้งผู้ใหญ่และเด็กจำนวน 2,123 คน

แรงงานข้ามชาติและครอบครัวเข้าร่วมดูภาพยนตร์เคลื่อนที่เกี่ยวกับเรื่องวัคซีนโควิด-19
UNICEF Thailand
แรงงานข้ามชาติและครอบครัวเข้าร่วมดูภาพยนตร์เคลื่อนที่เกี่ยวกับเรื่องวัคซีนโควิด-19

จนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2565 นี้อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 1 ในจังหวัดตากอยู่ที่ร้อยละ 67.4 เข็มที่ 2 อยู่ที่ ร้อยละ 57.3 และ เข็มที่ 3 มีเพียงร้อยละ 22.2 โดยมีการคาดการณ์ว่าอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19  อาจจะต่ำลงกว่านี้อีก โดยเฉพาะในหมู่คนข้ามชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือในกลุ่มผู้ที่ไม่มีเอกสารประจำตัวของทางราชการ กิจกรรมการฉายภาพยนตร์ดังกล่าว ซึ่งมุ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นี้มีส่วนช่วยกระตุ้นความต้องการในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนนโยบายของประเทศไทยที่จะปกป้องประชาชนทุกคนให้ปลอดภัยและทำให้สังคมและเศรษฐกิจกลับสู่สภาวะปกติ

การจัดฉายภาพยนตร์เคลื่อนที่เกี่ยวกับเรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่องค์การยูนิเซฟสนับสนุน
UNICEF Thailand
การจัดฉายภาพยนตร์เคลื่อนที่เกี่ยวกับเรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่องค์การยูนิเซฟสนับสนุน เพื่อแรงงานข้ามชาติและครอบครัว

“เมื่อเราฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เราจะได้ดูแลทั้งตนเองและคนที่เรารัก” คิม กล่าวกับกลุ่มผู้มาร่วมกิจกรรม นอกจากนั้น ยูนิเซฟยังได้แจกสมุดระบายสีเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 และสีเทียนให้แก่เด็ก ๆ ในงานนี้เช่นกัน

“เป็นการยากที่แรงงานข้ามชาติจะแยกตัวหากติดเชื้อ” แมรี่ สโลน ผู้อำนวยการมูลนิธิเสริมปัญญากล่าวกับ คิม ระหว่างการพบปะกันในงานนี้ “การได้ร่วมมือกับยูนิเซฟ ทำให้เราสามารถช่วยเหลือให้พวกเขาดูแลและป้องกันตนเองได้ ทำให้พวกเขามีข้อมูลในสิ่งที่จำเป็นและคลายข้อกังวลที่มีลงได้”