วัยรุ่นพร้อมนำการเปลี่ยนแปลงเพื่อเด็ก

ผู้นำอาสายูนิเซฟรุ่นใหม่เตรียมสร้างโครงการพัฒนาสังคม

โชติรส สุขสังวรวงศ์
ภาพหน้าจอโปรแกรม Zoom ที่ผู้เข้าร่วมประชุมกำลังทำหน้ายิ้มแย้มและชูสองนิ้วสัญลักษณ์รูปตัววี
UNICEF Thailand
17 ธันวาคม 2021

ภายใต้โครงการผู้นำอาสายูนิเซฟ ผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยต่างตั้งใจและมุ่งช่วยพัฒนาชุมชนของตน โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา ผู้นำอาสารุ่นแรกได้สร้างกิจกรรมช่วยสนับสนุนเด็ก ผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็กได้มากถึง 2,700 คน ในจังหวัดขอนแก่น นครปฐม มุกดาหาร และเชียงใหม่  และในปีนี้ ผู้นำอาสารุ่นที่สองจำนวน 12 คนที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครทั้งหมดกว่า 390 คน ก็ได้พกความตั้งใจและความกระตือรือร้นมาอย่างเต็มเปี่ยม

ยูนิเซฟได้จัดการอบรมกว่า 23 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้นำอาสามีความมั่นใจในการสร้างกิจกรรมอาสาของตนเอง และโควิด-19 ทำให้การอบรมเริ่มต้นด้วยการปฐมนิเทศน์ออนไลน์ที่เหล่าผู้นำอาสาได้พบกับเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟ และเรียนรู้การทำงานเพื่อเด็กของยูนิเซฟ เช่น งานเรื่องการคุ้มครองเด็ก การอบรมช่วงถัดไปอบรมให้น้องๆ เข้าใจถึงนโยบายการคุ้มครองเด็กในการทำกิจกรรมอาสา น้องๆ ยังได้เรียนรู้ว่า ในการปฏิบัติงานอาสานั้น ผลประโยชน์สูงสุดของเด็กจะต้องสำคัญเป็นอย่างแรก นอกจากนี้ น้องๆ ผู้นำอาสายังได้อบรมทักษะความเป็นผู้นำ การคิดเชิงออกแบบ และขั้นตอนในการบริหารจัดการกิจกรรมอีกด้วย

ภาพหน้าจอโปรแกรม Zoom ในระหว่างการอบรมผู้นำยูนิเซฟ
UNICEF Thailand

“แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้เรียนรู้เรื่องการพัฒนาโครงการ แต่การอบรมหลายช่วงที่ได้รับทำให้มั่นใจว่าจะทำโครงการอาสาให้สำเร็จได้” โอม หนึ่งในผู้นำอาสากล่าว

โครงการผู้นำอาสาเป็นเหมือนแผนที่นำทางที่จะช่วยให้ผู้นำอาสาได้รับการสนับสนุน และได้รับเครื่องมือต่าง ๆ ที่เหมาะสม เพื่อเปลี่ยนความปรารถนาให้เป็นการลงมือทำ โดยที่ผู้นำอาสาสามารถสร้างโครงการของตัวเอง หรือทำงานร่วมกับผู้นำอาสาคนอื่น ๆ พร้อมกับขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟในเรื่องการออกแบบกิจกรรมและปฏิบัติงาน

กรุ๋งกริ๋ง ผู้นำอาสาอีกคน อยากให้เรื่องสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้เป็นปกติ เช่นเดียวกับการบอกเพื่อนว่าเป็นหวัดจึงต้องไปพบแพทย์ 

“กริ๋งอยากทำให้ปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องปกติผ่านการใช้โซเชียลมีเดียค่ะ การอบรมและคำแนะนำ จากยูนิเซฟเริ่มทำให้เรื่องนี้เป็นจริงได้มากขึ้น” กรุ๋งกริ๋งกล่าว 

แจนเป็นผู้นำอาสาอีกคนหนึ่งที่ได้ทำงานร่วมกับผู้นำอาสาคนอื่น ๆ ที่มีความคิดใกล้เคียงกัน ร่วมมือกับนิสิตจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการสนับสนุนเยาวชนและจัดงานเสวนาออนไลน์ เพื่อให้ความรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนและกฎหมายในเรื่องการกลั่นแกล้งรังแกออนไลน์ การล่วงละเมิดทางเพศ และการคุ้มครองผู้แจ้งเหตุเพื่อดำเนินคดี

กราฟิกประชาสัมพันธ์งานเสวนา VolunTalk
UNICEF Thailand

“การได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม ได้คิดงานร่วมกับผู้นำคนอื่น ช่วยให้แจนเข้าใจปัญหาจากหลายแง่มุม เราใช้หลักประชาธิปไตยในการสื่อสารกันค่ะ เราคุยกันตรงไปตรงมา แลกเปลี่ยนความกังวล ถกกันถึงการตัดสินใจโดยอ้างอิงหลักฐาน แล้วก็ขอคำแนะนำเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟในการวางแผนขั้นตอนการทำงานด้วยค่ะ” แจนกล่าว 

ผลที่เกิดขึ้นจากโครงการต่าง ๆ ของผู้นำอาสาเพื่อเด็ก ผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็กจะเก็บข้อมูลและวัดผลด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้ร่วมปฏิบัติกิจกรรมและผลสำรวจความพึงพอใจ การวัดผลนี้จะช่วยให้ผู้นำอาสาเข้าใจถึงผลลัพธ์จากความตั้งใจทำงาน และเป็นบทเรียนเพื่อการพัฒนากิจกรรมอาสาอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย ในปีที่ผ่านมา โครงการต่าง ๆ ของผู้นำอาสารุ่นแรกได้เน้นเรื่องโรคโควิด-19 และแสดงให้เห็นว่าผู้นำคนเดียวก็สามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนได้ ดังเช่นโทมัส ผู้นำอาสารุ่นแรกที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กถึง 663 คน จาก 12 หมู่บ้านในจังหวัดขอนแก่น ช่วยลดสถานการณ์ตึงเครียดในช่วงที่เกิดโรคระบาด โทมัสได้อาสาแจกสมุดภาพระบายสีจากยูนิเซฟ อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์การออกกำลังกาย รวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และสบู่ เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ได้มีสุขภาพดีในช่วงที่ต้องเรียนหนังสือจากที่บ้าน

โทมัสเล่าถึงประสบการณ์ให้ผู้นำอาสารุ่นที่สองฟังว่า “ความสำเร็จของโครงการอยู่ที่ความตั้งใจเป็นสำคัญ” พร้อมให้กำลังใจน้องๆ ให้สู้ต่อแม้มีอุปสรรคมากมายเพียงใด เพราะว่า “อุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น”

ปัญหามีอยู่ทุกที่ และเป็นเรื่องที่ง่ายที่จะรอให้คนอื่นเห็นและมาแก้ไขปัญหาเหล่านั้น แต่ใช้ไม่ได้กับผู้นำอาสาของเรา เพราะการสนับสนุนจากยูนิเซฟทำให้น้องๆ ผู้นำอาสาปฏิเสธที่จะเพิกเฉยต่อปัญหา ทั้งยังกระตือรือร้นที่จะสร้างโลกที่ดีขึ้นให้ได้เพื่อเด็กทุกคน –ดังนั้นอย่าลืมมาร่วมติดตามกิจกรรมอาสาต่าง ๆ ของผู้นำอาสาของเราต่อไปด้วยกัน!