ครอบครัวแรงงานต่างด้าวทำได้เพียงแค่รอให้วิกฤตผ่านพ้นไป

ครอบครัวที่เคยมีรายได้จากค่าจ้างรายวัน 600 บาทก่อนปิดเมือง รายได้ต้องลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว

สิรินยา วัฒนสุขชัย
ครอบครัว พ่อแม่ลูก 4 คน
UNICEF Thailand/2020/Preechapanich
05 มิถุนายน 2020

หัสดง วันทอง อายุ 27 ปี แต่งงานกับสามีอายุ 28 ปี ทั้งคู่เป็นแรงงานจากประเทศลาว มีลูก 3 คน พวกเขาเลี้ยงลูก 2 คน ในชุมชนเสือใหญ่ กรุงเทพมหานคร ส่วนลูกชายคนโตอายุ 8 ขวบ นั้นพักอาศัยอยู่กับปู่ย่าที่บ้านเกิด

หัสดงทำงานลูกจ้างร้านขายเครื่องดื่มในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เธอเพิ่งคลอดลูกคนเล็กเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่ลูกของเธอกลับไม่มีสิทธิขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูบุตรจำนวน 600 บาทเพียงเพราะพ่อแม่ไม่ได้เป็นคนไทย แม้ว่าทั้งคู่จะทำงานเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยมานานกว่าทศวรรษแล้วก็ตาม

ด้านนอกของตัวบ้าน ที่เป็นห้องพักหลายๆ ห้องติดกัน มีทางเดินแคบๆ
UNICEF Thailand/2020/Preechapanich

ครอบครัวของหัสดงเคยมีรายได้จากค่าจ้างรายวัน 600 บาทก่อนปิดเมือง แต่ปัจจุบันรายได้ลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว หรือประมาณเดือนละ 6,000 บาท เพราะร้านที่เธอทำงานเป็นลูกจ้างปิดชั่วคราวตามคำสั่งของรัฐบาล รายได้ปัจจุบันจึงแทบไม่พอค่าอาหารเลี้ยงดูสี่ชีวิตในบ้าน ตอนนี้ลูกคนกลางอายุ 3 ขวบไม่ได้ดื่มนมทุกวันเพราะเงินไม่พอ แต่โชคดีที่ลูกคนเล็กยังอยู่ในวัยดื่มนมแม่ทำให้เธอไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

“เราไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากรอ” หัสดงบอก ตั้งแต่ปิดเมืองเธอและสามีกลับบ้านไม่ได้เพราะพรมแดนระหว่างไทยกับลาวปิด และพวกเขาก็ไม่มีสิทธิจะลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท เพราะทั้งคู่เป็นแรงงานข้ามชาติ ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองไม่ต่างจากแรงงานอื่น ๆ ก็ตาม

เด็กน้อยกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง
UNICEF Thailand/2020/Preechapanich

สิ่งที่เธอและสามีทำได้คือการรอให้รัฐบาลประกาศเปิดเมืองอีกครั้งเพื่อที่เธอจะได้กลับไปช่วยสามีหารายได้อย่างสบายใจ เพราะเธอแน่ใจว่าลูกสองคนที่จะฝากไว้บ้านเด็กอ่อนในละแวกบ้านจะมีพี่เลี้ยงคอยดูแล พร้อมอาหารเช้าและกลางวัน แล้วยังมีนมให้ดื่มทุกวันอีกด้วย

"ฉันไม่กลัวไวรัสหรอก แต่ฉันกลัวว่าลูกจะไม่มีข้าวกินมากกว่า”