ทุกวินาทีคือชีวิต สำหรับเด็ก ๆ ในฉนวนกาซา

ยูนิเซฟเรียกร้องให้มีการหยุดยิงชั่วคราวโดยทันที เพื่อมนุษยธรรม และเปิดทางให้เข้าถึงพื้นที่ได้โดยปลอดภัย เพื่อให้การช่วยเหลือเด็ก ๆ สามารถดำเนินต่อไปและขยายความช่วยเหลือได้

14 ตุลาคม 2023
โลโก้องค์การยูนิเซฟสีขาวบนพื้นสีฟ้า
UNICEF

นิวยอร์ก 13 ตุลาคม 2566 – เด็กจำนวนหลายแสนคนและครอบครัว เริ่มอพยพออกจากทางตอนเหนือของกาซาทางในวันนี้ ก่อนที่จะมีการโจมตีในวงกว้างจะเกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากการทิ้งระเบิดปูพรมในกาซาต่อเนื่องหลายวันหลังเหตุโจมตีอันโหดร้ายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่สงครามครั้งนี้เกิดขึ้น มีเด็กนับร้อย ๆ คนเสียชีวิต และผู้คนอีกนับพันได้รับบาดเจ็บ

ยูนิเซฟขอเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในทันทีระหว่างที่ผู้คนราว 1.1 ล้านคน ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งเป็นพวกเด็ก ๆ อพยพออกจากพื้นที่ ก่อนที่การโจมตีทางทหารในวงกว้างจะเกิดขึ้นในสถานที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นติดต่อกันหลายวันที่ผ่านมา ได้ทำให้เด็ก ๆ และครอบครัวในกาซาขาดแคลนอาหาร น้ำ ไฟฟ้า ยา และการเข้าถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย และเส้นทางการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือก็ถูกตัดขาดทั้งหมด

"สถานการณ์นี้คือความหายนะ มีการทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง และจำนวนเด็กและครอบครัวที่ต้องพลัดถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่มีสถานใดที่ปลอดภัย” แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหาร องค์การยูนิเซฟ กล่าว "การหยุดยิงในทันทีและการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก ๆ ในการให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างมากแก่เด็ก ๆ และครอบครัวในกาซา เราจำเป็นต้องหยุดยิงชั่วคราวทันเพื่อแก่มนุษยธรรม เพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือจะสามารถเข้าถึงพวกเด็ก ๆ ได้อย่างปลอดภัยและไร้อุปสรรค ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครหรืออยู่ที่ใดก็ตาม สงครามมีกฎกติกา พวกเด็ก ๆ ในกาซาต้องการความช่วยเหลือ และทุกนาทีมีค่า”

บ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญพังทลายลง และผู้คนกว่า 423,000 คนต้องจากบ้านของพวกเขาไป บางคนต้องเข้าไปหลบภัยตามโรงเรียนหรือโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งโรงเรียนบางแห่งก็ได้รับความเสียหายจากการโจมตี โรงพยาบาลหลักสองแห่งในกาซาไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง และเต็มไปด้วยผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บ ก็ได้รับคำเตือนให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ไปทางใต้ภายในไม่กี่ชั่วโมงเช่นกัน

ขณะนี้ ประชาชนไม่มีทางออกจากกาซาได้เลยในทางปฏิบัติ

เจ้าหน้าที่ของยูนิเซฟ ยังคงให้การช่วยเหลือแก่พวกเด็ก ๆ ทั่วฉนวนกาซา แต่การเข้าถึงพวกเขามีความยากลำบาก และอันตรายมากขึ้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยังได้รับคำเตือนให้ย้ายออกจากเมืองกาซา แต่เจ้าหน้าที่ของยูนิเซฟจะยังอยู่ในทางตอนใต้ของกาซาเพื่อให้ความช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือต่อไป

ยูนิเซฟได้แจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือที่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้าเกือบทั้งหมดแล้ว และดำเนินการเพื่อให้โรงผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลแห่งเดียวที่ใช้งานได้ในฉนวนกาซายังสามารถทำงานต่อไปได้ แม้กำลังการผลิตจะลดลงอย่างมาก โรงผลิตน้ำจืดแห่งนี้ช่วยให้ผู้คน 75,000 คนได้เข้าถึงน้ำอุปโภคบริโภคที่ปลอดภัย แต่หากไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง ในไม่ช้าโรงผลิตน้ำจืดแห่งนี้ก็คงต้องหยุดการผลิตลง ยังคงมีการส่งมอบเวชภัณฑ์และยาให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ แต่เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว เตียงในโรงพยาบาลและยาที่จำเป็น รวมถึงยาชา ก็กำลังหมดลงอย่างรวดเร็ว

"เด็กก็คือเด็ก พวกเขาต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด และจะต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของการถูกโจมตี" รัสเซลล์กล่าว "เราขอย้ำถึงข้อเรียกร้องของเลขาธิการสหประชาชาติให้ยกเลิกคำสั่งอพยพพลเรือนชาวปาเลสไตน์มากกว่าหนึ่งล้านคนออกจากทางตอนเหนือของกาซา และทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อให้พวกเขาปลอดภัยและให้ความคุ้มครองแก่พวกเขา เด็กทุกคนสมควรได้สิ่งนี้"

ที่อยู่ติดต่อสื่อ

รูดิน่า วอยจ์โวด้า
หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร
องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
อีเมล: rvojvoda@unicef.org
ณัฐฐา กีนะพันธ์
Communication Officer
องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย
อีเมล: nkeenapan@unicef.org

เกี่ยวกับยูนิเซฟ

ยูนิเซฟส่งเสริมสิทธิและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กทุกคน ในทุกๆ งานที่เราทำ ยูนิเซฟทำงานใน 190 ประเทศและดินแดน ร่วมกับพันธมิตรของเรา เพื่อแปรเปลี่ยนความมุ่งมั่นให้กลายเป็นการลงมือทำที่เป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงพวกเด็กๆ ในกลุ่มที่เปราะบางและถูกมองข้าม ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของเด็กทุกคน ในทุกๆ ที่

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิเซฟ และงานเพื่อเด็กของยูนิเซฟ ได้ที่เว็บไซต์ www.unicef.org/thailand/

ข้อมูลทั่วไปกรุณาติดต่อ thailandao@unicef.org

ติดตามเรื่องราวล่าสุดจากยูนิเซฟได้ที่ ทวิตเตอร์ และ เฟซบุ๊ก ของยูนิเซฟ