นโยบายสังคม
โอกาสที่เท่าเทียมในชีวิตเพื่อเด็กทุกคน

- พร้อมใช้งานใน:
- English
- ไทย
ความท้าทาย
เด็กมีแนวโน้มจะตกอยู่ในความยากจนและได้รับผลกระทบจากความยากจนมากกว่าผู้ใหญ่ การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลจึงมีความสำคัญในการสนับสนุนให้พวกเขามีชีวิตรอดและเติบโต โดยโครงการคุ้มครองทางสังคม เช่น การจ่ายเงินอุดหนุนในด้านต่าง ๆ จะสนับสนุนให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสในชีวิตที่เท่าเทียม
เด็กในประเทศไทยจำนวนมากยังถูกทิ้งไว้ข้างหลังแม้ประเทศไทยจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจในหลายทศวรรษที่ผ่านมา และสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทำให้เห็นความเปราะบางต่าง ๆ ชัดเจนขึ้น โดยมีประมาณการว่าสถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีคนอีกมากกว่า 1.5 ล้านคน ตกอยู่ในความยากจน
จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีอัตราความยากจนสูงสุด โดยเด็กในเขตชนบทยังมีโอกาสน้อยกว่าเด็กในเขตเมือง ขณะที่ครอบครัวแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะจากเมียนมา รวมทั้งเด็กพิการ คือกลุ่มเปราะบางต่อความยากจนและมีความเสี่ยงสูงต่อความรุนแรง การแสวงประโยชน์ การค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานเด็ก
เด็กประมาณ 1 ใน 5 คนใช้ชีวิตอยู่ในความยากจนหลายมิติ และต้องเผชิญข้อจำกัดต่าง ๆ หลายด้าน เช่น ปัญหาสุขภาพ การขาดการศึกษา และสภาพการดำรงชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ความเหลื่อมล้ำดังกล่าวจะถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และก่อผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม
การดำเนินการของยูนิเซฟ
นิเซฟสนับสนุนรัฐบาลในการปรับปรุงนโยบายในด้านต่าง ๆ เพื่อลดช่องว่างความยากจน โดยเฉพาะการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีคุณภาพ เกี่ยวกับความยากจนและสภาพความเป็นอยู่ของเด็ก โดยการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย เพื่อติดตามความคืบหน้าและผลักดันการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลเชิงประจักษ์ นอกจากนั้น ยูนิเซฟยังให้ความสำคัญกับการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ของกลุ่มที่ขาดโอกาสที่สุด ได้แก่ เด็กพิการ เด็กในชุมชนยากจนและชุมชนแออัด เด็กไร้สัญชาติ เด็กข้ามชาติ และกลุ่มชาติพันธุ์
ยูนิเซฟช่วยสนับสนุนการบูรณาการบริการคุ้มครองทางสังคมของหน่วยงานต่าง ๆ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของเด็กได้อย่างครบวงจรในช่วงวิกฤติ นอกจากนี้ ยูนิเซฟยังผลักดันให้มีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความจำเป็นของเด็ก และสนับสนุนให้มีการติดตามและประเมินผลเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ยูนิเซฟสนับสนุนการขยายโครงการคุ้มครองทางสังคมให้ครอบคลุมเด็กทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มขาดโอกาส เพื่อตัดวงจรความยากจนที่จะส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น ยูนิเซฟได้สนับสนุนการริเริ่มและขยายโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในระหว่างปี 2558 - 2562 และกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลในการขยายโครงการดังกล่าวที่ครอบคลุมเฉพาะเด็กจากครอบครัวที่ยากจน ให้ครอบคลุมเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีทุกคน